รวม PASS รถไฟในญี่ปุ่นปี 2015-2016！！ตอนที่ 1 : Tokyo Wide pass

ปล. บทความทุกบทความในบล็อกนี้แอดมินเรียบเรียงและเขียนเอง หากผิดพลาดตรงไหนแจ้งที่หน้า facebook ได้เลยนะคะ จะแก้ไขให้โดยด่วน  และสำหรับคนที่จะก๊อบเอาไปเผยแพร่ที่อื่น ก็ส่งข้อความมาบอกกันหน่อยนะคะ พลีสส

ปี 2015 - 2016นี้ญี่ปุ่นมีมาตรการมากมายในการต้อนรับ (และโกยเงิน)นักท่องเที่ยว หนึ่งในนั้นก็คือการเปลี่ยนแปลงพาสต่างๆมากมายที่(น่าจะ) ทำให้ท่องเที่ยวได้ง่ายขึ้น  แต่ความวุ่นวายของการเปลี่ยนแปลงคงทำให้ใครๆเหวอกันไปบ้างพอสมควรใช่มั้ยๆ  (รวมทั้งเราด้วย งงมาก!!)

ยกตัวอย่างเช่น

1. JR Kansai Hokuriku Area Pass  ---- >เปิดตัวมาปีที่แล้ว เหมาะสำหรับคนอยากเที่ยวโอซาก้าและทาคายาม่า  (เริ่มใช้ มีนา 2015)

2.  JR West pass ---- > ปรับโฉมใหม่ยกแผงตั้งแต่ปี 2015 แยกร่างเป็น Kansai wide area pass และ Kansai Area pass

3. Kanto pass 
 ----  ยกเลิกแล้วเปลี่ยนเป็น Tokyo Wide pass (เริ่ม 15 ธันวา 2015)

4. JR East pass 
--- > แยกร่าง กลายเป็น Niigata+Nagano และ Tohoku area (เริ่มเมษา 2016)

5. JR East-south Hokkaido rail pass
--- > น้องใหม่ล่าสุดต้อนรับการเปิดตัวของฮอคไกโดชินกันเซ็น (เริ่มเมษา 2016)

6.  Kansai - Hiroshima area pass
---- > น้องใหม่สำหรับคนหลายใจอยากไปทั้งคันไซและฮิโรชิม่าในราคาประหยัด (เริ่มใช้ มีนา 2016)

... และพาสอื่นๆอีกมากมาย..เอาไว้จะทยอยเขียนต่อไปนะคะ ....

ทีนี้เห็นแล้วหลายคนคงมีคำถาม พาสแบบเก่า แบบใหม่  มีอะไรต่างกันบ้าง (วะ!!)
ชั้นจะไปที่นี่ ใช้พาสไหนดี ซื้อที่ไหน
มีพาสนี้แล้วไปเที่ยวที่ไหนได้บ้าง
โคตร.....งง!!

อ่ะ ล้อมวงกันเข้ามา
จะช่วยรวบรวมข้อมูลให้ค่ะ

บทความนี้จะขอพูดถึงพาสใหม่ๆ (อาจมีแนะนำพาสอื่นๆที่เกี่ยวข้องด้วย) และสถานที่ท่องเที่ยวท่อยากแนะนำในการใช้พาสนั้นๆอย่างคุ้มค่า

ว่าแล้วก็เริ่มกันเลย~~

ปล.ใครอยากสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ไปเจอกันที่ facebook ค่า

1.  ยกเลิก KANTO pass  เปลี่ยนเป็น  Tokyo Wide pass 

(เริ่ม 19 ธค. 2015)

JR Tokyo Wide Pass เป็นชื่อใหม่ของ Kanto Pass, พาสเก๋ๆสุดคุ้มของคนที่ชอบเที่ยวโตเกียวและจังหวัดใกล้เคียงในเวลา 3 วัน สุดคุ้มด้วยการเดินทางแบบฮิโซด้วยรถไฟชินกันเซ็นที่นั่งยาวไปเล่นสกีได้ถึงกาล่ายูซาว่า ของเก่าราคา 8000 เยน ส่วนของใหม่ 10,000 เยน 

แล้วไอ้ราคาที่เพิ่มขึ้นมา 2000 เยนนี่มีอะไรเพิ่มขึ้นมาบ้างนะ?? คุ้มหรือไม่!! มาดูกัน

สายรถไฟที่ใช้ได้เพิ่มมากขึ้น

ตามรูปด้านล่าง จะเห็นว่าส่วนที่เพิ่มมาจากพาสของเก่าก็คือ ชินกันเซ็นจาก Jomo-Kogen -- > Gala Yuzawa อันนี้จะตอบโจทย์คนที่จะไปเล่นสกีที่กาล่ายูซาว่าเป็นอย่างดีทีเดียว  จากที่ก่อนหน้านี้ถ้าใช้ Kanto passต้องจ่ายเงินเพิ่ม1000 เยนเพื่อไปถึงที่นี่... ตอนนี้ไม่ต้องแล้วจ้า.. จัด Tokyo Wide Pass ใบเดียวไปโลด  นอกจากนี้ลานสกีที่กาล่ายังแสนจะฉลาด  เปิดโปรโมชั่นส่วนลดให้กับคนที่ใช้พาสนี้มาเล่นสกีที่นั่นด้วย เรียกได้ว่าเป็นแฮปปี้เซ็ทสุดคุ้มจริงๆ

อีกส่วนนึงที่เพิ่มขึ้นมาคือรถไฟสายคือ Rinkai Line (Tokyo Waterfront Area Rapid Transit) ที่วิ่งระหว่างสถานี Shin-Kiba ไปถึงสถานี Ōsaki ด้วย (ตามรูปด้านล่างนี้ค่ะ) ถ้าใครไม่รู้ว่าเส้นนี้มีดีอะไร ก็ต้องบอกว่า มันคือเส้นที่วิ่งผ่านอ่าวโอไดบะนั่นเองค่า... ต่อไปใครจะไปดูหุ่นกันดั้ม ก็ลงสถานี Tokyo Teleportแล้วเดินไป หรือจะไปนั่งรถไฟไร้คนขับที่วิ่งรอบโอไดบะ ก็ลงสถานี Kokusai-tenjijo เพื่อเปลี่ยนไปขึ้น Yurikamome  ได้โดยไม่ต้องจ่ายตังเพิ่มจากในตัวเมืองแล้นน ( ส่วนบนรถไฟYurikamomeยังต้องจ่ายอยู่นะคะ )

สรุปแล้วสายรถไฟที่ใช้ได้ก็ตามนี้ค่ะ

• 1. JR East Lines  (เหมือนเดิม)
• 2. Tokyo Monorail  (เหมือนเดิม)
• 3. Izu Kyuko Line  (เหมือนเดิม)
• 4. Fujikyu Railway  (เหมือนเดิม)
• 5. Joshin Dentetsu Line  (เหมือนเดิม)
• 6. Saitama New Urban Transit Line (New Shuttle) ระหว่างสถานี Omiya and และ Railway Museum (เหมือนเดิม)
• 7. Tokyo Waterfront Area Rapid Transit Rinkai Line  (ของใหม่)
• 8. Limited express ที่วิ่งระหว่าง JR East Line และ Tobu Railway Line(เหมือนเดิม)
• 9. Shinkansen ของ JR east ที่วิ่งระหว่างโตเกียวถึง Gala Yuzawa (ของใหม่)

แล้วถ้าซื้อพาสนี้จะไปเที่ยวไหนได้บ้างน๊าาาา

ทาง JR ได้ทำแผนที่ท่องเที่ยวรอไว้แล้ว  ตามนี้เลยค่ะ  อย่าลืมว่าพาสนี้ใช้ติดต่อกันได้แค่สามวัน  ดังนั้นอย่าได้คิดว่าจะเที่ยวได้หมดทุกที่!! ถ้าอยากไปสบายๆก็เลือกเอาที่อยากไปซักสามที่ก็พอค่ะ เพราะบางที่ก็มีพาสส่วนตัวของเค้าเอง  อย่างเช่นแถวฟูจิ หรือนิกโก้ บางทีซื้อพาสแยกอาจจะคุ้มกว่าก็ได้น๊า

1. เดินทางเข้าเมืองได้สบายๆจากสนามบินฮาเนดะและนาริตะ
ไม่ว่าจะบินมาลงที่นาริตะหรือฮาเนดะ ก็สามารถไปซื้อพาสและเปิดใช้งานจากที่นั่นได้เลยค่ะ นั่งรถไฟฟรีตั้งแต่สนามบินมาเข้าตัวเมืองเลยทีเดียว  เรามาดูความคุ้มค่าของเส้นทางนี้กันดีกว่า

จากสนามบินฮาเนดะ 

สามารถใช้พาสนั่ง Tokyo Monorail  มาลงที่สถานี Hamamatsucho แล้วต่อรถไฟ yamanote เข้าเมืองได้เลย 

ระยะเวลา: 13 นาที
ค่าโดยสาร: 470 เยน
ความคุ้มค่าหากเปิดใช้พาส : ค่ารถไฟเส้นนี้ไม่แพง ต้องดูด้วยว่าพักในเมืองที่สถานีอะไร ถ้าไปถึงฮาเนดะตอนเช้าก็น่าเปิดใช้งาน (แต่ต้องดูด้วยว่า ที่พักอยู่แถวไหน แล้ววันนั้นจะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง) แต่ถ้าไปถึงเย็นๆแล้วก็เก็บพาสไปใช้วันอื่นดีกว่า

จากสนามบินนาริตะ

ใช้พาสนั่งรถไฟไฮโซ NE'X จากสนามบินเข้าเมืองโตเกียวได้เลย รวดเร็ว ทันใจ และรถไฟใหม่มาก ใครพักแถวสถานีโตเกียว ชินจูกุ อิเคะบุคุโระ หรือโยโกฮาม่า นั่งเส้นนี้สบายๆไม่ต้องไปยกกระเป๋าต่อขบวนเลยด้วย 

ระยะเวลา: ประมาณ 1 ชั่วโมง (ถึงสถานีโตเกียว)
ค่าโดยสาร: 3000 ~ 4500 เยน ตามระยะทาง

ความคุ้มค่าหากเปิดใช้พาส : NE'X จัดเป็นรถไฟไฮโซ ที่นั่งกว้างสบาย  มีที่วางกระเป๋าเดินทางใบใหญ่พร้อมที่ล็อกแบบใส่รหัส มีถาดวางอาหาร มีรูปลั๊กไฟให้ชาร์จมือถือ แบบว่าโดยรวมแล้วดูดีกว่าชินกันเซ็นบางขบวนซะอีก ดังนั้นไม่แปลกเลยที่ราคาจะแรงพอควร ถ้านั่งเข้าสถานีโตเกียวก็ปาเข้าไป 3000 กว่าเยนแล้ว ถ้ามาถึงนาริตะตอนเช้าแล้วจะนั่งรถเที่ยวต่อ ก็ขอแนะนำให้เปิดใช้พาสไปเลย สบายๆ แต่ถ้ามาถึงช่วงบ่ายแล้วคิดว่าจะเข้าโตเกียวไปนอนและช้อปนิดหน่อย อาจต้องชั่งใจดีๆ เพราะยังมีทางเลือกอื่นที่ถุกกว่าในการเดินทางเข้าโตเกียว อย่างเช่น Keisei Sky liner และรถไฟธรรมดา ที่อาจจะประหยัดได้มากกว่าด้วย

2. เที่ยวสบายๆในโตเกียว

แน่นอนว่าพาสนี้ใช้เที่ยวในเมืองโตเกียวได้สบายๆ จะชอปปิ้งในเมืองหรือจะนั่งไปเที่ยวอ่าวโอไดบะก็ได้  แต่เนื่องจากรถไฟในตัวเมืองก็ไม่ได้แพงมาก แค่หลักไม่กี่ร้อยเยน ถ้าจะใช้พาสก็ต้องคิดดีๆ ว่าจริงๆแล้วจะขึ้นจะลงกี่สถานี เป็นราคาเท่าไหร่ ซึ่งงานนี้ก็ตัวใครตัวมันจ้า ไปคิดกันเอาเองนะ    


3-5. เลือกเที่ยวจังหวัดปริมณฑลรอบๆโตเกียว

เบอร์ 3) จ.ไซตามะ  ขอแนะนำสามที่ท่องเที่ยวในจังหวัดไซตามะ

1. พิพิฒภัณฑ์รถไฟ ที่ยิ่งใหญ่ไฮโซโก้หรูมาก การเดินทางก็ง่ายแสนง่าย  ใช้พาสก็นั่ง JR ไปลงสถานีOmiya และนั่ง shuttle bus ต่ออีก 3 นาที ซึ่งบัสนี้ก็รวมในพาสแล้ว เรียกได้ว่าฟรีตลอดสายค่ะ  2.  Kawagoe  เป็นย่านเมืองเก่า ที่แม้อาจจะไม่ขลังเท่าเกียวโต แต่ว่าก็เงียบๆ ชิวๆ ให้บรรยากาศแบบญี่ปุ่นอยู่บ้างเหมือนกัน หลังๆมานี่ค่อนข้างเป็นที่สนใจจากคนไทยพอควร  การเดินทางก็ง่ายมากนั่ง JRไปถึง kawagoe ไปได้เลย สบ๊ายยย  สบาย   แต่ถ้าไม่มีพาส ราคารถไฟจากชินจูกุไปกลัล Kawagoe ก็อยู่ที่  ุ1260 เยนเท่านั้นอ่านะ

ความคุ้มค่าหากเปิดใช้พาส : ก็ไม่ได้คุ้มมากเท่าไหร่เพราะค่ารถไฟไม่ได้แพงมาก ถ้ามีที่อื่นอยากไปก็ใช้พาสไปที่อื่นดีกว่า แล้วค่อยมาจ่ายเพิ่มเพื่อเที่ยวแถวนี้ค่ะ 


เบอร์ 4) โยโกฮาม่า จ.คานากาว่า 
โยโกฮาม่าเป็นชื่อเมืองท่าที่สวยงาม ริมอ่าวให้บรรยากาศคล้ายๆโกเบ ตอนกลางคืนประดับไฟสวยงามเหมาะกับการเดินเล่นชิวๆแสนโรแมนติก  นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Hakkeijima  ที่ใหญ่ที่สุดติด top 3 ของประเทศญี่ปุ่น และพิพิธภัณฑ์ราเม็งให้ลองทำราเม็งกันอีกด้วย 

ความคุ้มค่าหากเปิดใช้พาส : ก็ไม่ได้คุ้มมากเท่าไหร่เพราะค่ารถไฟไม่ได้แพงมาก ถ้ามีที่อื่นอยากไปก็ใช้พาสไปที่อื่นดีกว่า แล้วค่อยมาจ่ายเพิ่มเพื่อเที่ยวแถวนี้ค่ะ 

6-8.ขึ้นไปเที่ยวทางตะวันออกเฉียงเหนือ 

เบอร์6) Ibaraki
อิบารากิ!  ถ้าพูดถึงจังหวัดนี้ ที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อในหมู่คนไทยคงไม่พ้น Hitashi Seaside park ถ้าใครนึกไม่ออกว่ามันคือที่ไหน ก็ต้องบอกว่า  เคยเห็นโปสเตอร์เที่ยวญี่ปุ่นแบบด้านล่างนี้มั้ยคะ ทุ่งโคเกียสีแดงรูปแรกนี้สามารถไปดูได้ช่วงเดือนตุลา ส่วนเนโมฟีเลียสีฟ้ารูปที่สองอยู่ช่วงปลายเมษา - กลางพฤษภาค่ะ ไปให้ถูกเวลานะคะ เดี่ยวจะหาว่าไม่เตือน  ส่วนรูปสุดท้าย ...ถ้าอยากดูซากุระสวยๆแบบนี้ก็ต้องไปที่สวนไคราคุเอนนะจ๊ะ ความไม่ธรรมดาของที่นี่ก็คือ เป็นสวนที่สวยติดอันดับ 1 ในสามของญี่ปุ่นเลยนะคะ ห้ามพลาด

เบอร์7) Nikko
พูดถึงนิกโก้ก็ต้องมรดกโลก! ศาลเจ้านิกโก้โทโชคุนั่นเอง!  นอกจากนี้ช่วงใบไม้แดง ถ้าได้ขับรถเที่ยวรอบๆนิกโก้ขอบอกว่ามันพีคมาก!! เรียกได้ว่าถ้าให้จัดอันดับสถานที่ดูใบไม้แดงสุดสวยของญี่ปุ่น แน่นอนว่าที่นี่ต้องติดหนึ่งในสามของโพลทุกสำนักแน่นอน 

ถ้าจะใช้พาสนี้ให้คุ้ม ต้องเลือกเส้นทางที่แพงที่สุด !! นั่นก็คือนั่งชินกันเซ็น Yamabiko จากสถานี JR Ueno ไปลงสถานี JR Utsunomiya แล้วต่อรถไฟสาย Nikko Line ไปลงยังสถานี JR Nikko  วิธีนี้ถ้าไม่มีพาสก็ฟาดไป 4720 เยนเลยนะคะ เกือบครึ่งนึของราคา Tokyo Wide pass แล้ว มีแต่คุ้มกับคุ้ม  

หรือถ้าไม่อยากต่อรถไฟขบวนโน้นนี้ อยากนั่งแบบรวดเดียวถึง จะใช้สิทธ์พิเศษของพาสนี้ขึ้นรถไฟสายโทบุ ยิงยาวรวดเดียวจาก Asakusa ไปถึงนิกโก้เลยก็ได้ค่ะ วิธีนี้ขอบอกเลยว่า แม้จะถือ JR pass ทั่วประเทศ(ที่ราคาแพงกว่า)ก็ขึ้นไม่ได้นะคะ  ต้องเป็น Tokyo Wide Pass เท่านั้นถึงเป็นข้อยกเว้น

ถ้าจะไปนิกโก้จากโตเกียว มีพาสที่ขายแยกมาขายมากมาย ทั้งแบบ1 วัน 2วัน  ลองดูได้ที่นี่เลยค่ะว่าแบบไหนจะคุ้มกว่ากัน

เบอร์8) Nasu Kogen
ไม่เคยได้ยินกันเลยใช้มั้ยคะ .. มันคือที่ไหน มีอะไรให้เที่ยวยังไง แม้จะยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักแต่ใบไม้แดงของที่นี่ก็นับเป็นอีกหนึ่งสุดยอดไฮไลท์ของโทชิกิ นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นแหล่งน้ำพุร้อน หรือที่เรียกว่าออนเซ็นที่ขึ้นชื่ออีกด้วย ถ้าใครมาเที่ยวนิกโก้ แล้วไม่รู้จะพักที่ไหน ก็ลองมาพักเรียวกังแถวๆนี้ดูได้ค่ะ 

9-11.ขึ้นไปเที่ยวทางเหนือ 

เบอร์9) Gunma
ถ้าคิดจะมาเที่ยวกุนมะก็ต้องห้ามพลาดแหล่งออนเซ็นชื่อดัง kusatsu onsen ที่เป็นออนเซ็นที่ดีที่สุดหนึ่งในสามของญี่ปุ่น มีนำ้แร่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินมากที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วยจ้า นอกจากนี้ยังมีอิคาโฮะ ออนเซ็นสไตล์เมืองเก่าที่เรียงรายอยู่บนนันไดหินยาวกว่า 300 เมตร รอบๆมีทั้งร้านค้า ร้านเล่นเกมส์โบราณมากมาย ถ้ามีเที่ยวแถวนี้ก็อย่าลืมไปแวะภูขาฮารุนะด้วยนะคะ  ช่วงใบไม้แดงเป็นจุดชมวิวที่สวยงามจุดนึงเลยทีเดียว

เบอร์10) Gala Yuzawa
เลยขึ้นมาจากกุนมะอีกนิด ถ้าอยากจะเล่นสกีที่ไม่ไกลจากโตเกียวก็ต้องที่เลยเลยค่ะ เป็นจุดท่องเที่ยวที่คุ้มที่สุดของพาสนี้ เพราะถ้าไม่มีพาส ราคาชินกันเซ็นจากโตเกียวมาที่นี่แค่ขาเดียวก็ 7000 กว่าเยนแล้วค่ะ ไปกลับนี่ปาเข้าไป 14000 เยน แพงกว่าค่า Tokyo Wide Pass ซะอีก ดังนั้นใครที่วางแผนจะมาเล่นสกีและเที่ยวโตเกียวรอบๆ บอกได้เลยว่าจงรีบตะครุบพาสนี้เอาไว้!!

เบอร์11) Karuizawa

ของแถม!! คารุอิซาว่า!! เมืองของคนรวยค่ะ ถ้ามีคนญี่ปุ่นบอกว่า ดิชั้นมีบ้านพักที่คารุยอิซาว่านะคะ จะดูเหมือนรัศมีออร่าของความเป็นคนรวยเปล่งประกายออกมาเลยค่ะ ที่ท่องเที่ยวที่นี่ก็คงไม่พ้นถนนชอปปิ้ง Karuizawa-ginza ที่ออกจะน่ารักมุ้งมิ้ง มากๆ สามารถเช่าจักรยานขี่เที่ยวและชอปปิ้งไปได้ด้วยนะคะ เริ่ดที่สุด!!

12-14 เที่ยวทางตะวันตก

เบอร์10) Yamanashi

เบอร์11) Fuji
ถ้าอยากเห็นภูเขาไฟฟูจิ อีกหนึ่งมรดกโลกที่ญี่ปุ่น ก็สามารถทำได้ในพาสนี้ ถ้าอยากเห็นฟูจิเต็มลูกสวยๆ สามารถนั่งรถไฟจากชินจูกุไปที่สถานีคาวากูจิโกะได้เลย (ต้องเปลี่ยนรถที่สถานี Otzuki）Fujikyu railway ที่วิ่งระหว่าง Otsuki กับ Kawaguchiko ก็อยู่ในพาสนี้ด้วย (ตรงนี้ถ้าเป็นพาสทั่วประเทศนั้นไม่รวมค่ะ จะต้องจ่ายเงินเพิ่ม)  แต่ถ้าหากอยากไปเที่ยวทั้งคาวากูชิโกะและฮาโกเน่ด้วยในทริปเดียว ขอแนะนำให้ซื้อพาส Fuji-Hakone free pass จะดีกว่านะจ๊ะ

เบอร์11) Izu
คาบสมุทร Izu หรือ Izu penninzula โด่งดังเรื่องออนเซ็นและอาหารทะเล และจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกอันสวยงาม แต่ช้าก่อน !! ถ้าไปญี่ปุ่นช่วงปลายเดือน กพ. ถึงกลางเดือน มีค. ต้องห้ามพลาดเทศกาลชมซากุระ Izu Kawazu อันแสนสวยงามจนลืมหายใจ  ความพิเศษของซากุระที่นี่คือเป็นพันธ์สีชมพูเข้มที่ปลูกเรียงรายอยู่ริมแม่น้ำ และดอกไม้สีเหลือสดที่ปลูกอยู่ใกล้ๆกัน  ดังนั้นคนที่ไปเที่ยวที่นี่ จึงจะได้เห็นซากุระสีชมพูตัดกับท้องฟ้าสีฟ้า โดยที่มีพื้นด้านล่างเป็นสีเหลืองสด สวยมาก!! แนะนำเลยค่ะ!!